ต้นทุนสินค้า (Product Cost) | ||
ศัพท์ที่น่าสนใจ
- ปริมาณสั่งซื้อที่ประหยัดสุด EOQ (Economic Order Quantity) - จุดสั่งซื้อ (Reorder Point) - ต้นทุน (Cost) - จำนวน (Volume) - กำไร (Profit) - สินค้าคงเหลือ (Inventory) - จุดคุ้มทุน (Break-Even Point) - ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) - ต้นทุนแปรผัน (Variable Cost) - ส่วนลด (Discount) - ยอดขาย (Sale) - ดอกเบี้ย (Interest) - วัตถุดิบ (Raw Materials) - ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses) - ภาษี (Tax) - การส่งคืนสินค้า (Return) - สินค้าระหว่างผลิต (Goods in Process) - ค่าขนส่งสินค้า (Freight Cost) - ไม่รวมค่าขนส่งข้ามประเทศ Free on Board (F.O.B.) - Gantt Chart - หนี้สิน (Liabilities) - ส่วนของเจ้าของ (Owner Equity) - สินทรัพย์ (Asset) - สินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) - ค่าเสื่อมราคา (Depreciation) - งบการเงิน (Financial Statement) - งบดุล (Balance Sheet) - งบกำไรขาดทุน (Income Statement) - รายได้ (Revenue) |
ต้นทุนมีหลายแบบ
1. เข้าก่อนออกก่อน (FIFO : First In First Out) 2. เข้าหลังออกก่อน (LIFO : Last In First Out) 3. ถัวเฉลี่ย (Moving Average) 4. ต้นทุนคงที่ (Standard Cost) 5. ต้นทุนขึ้นกับราคาขายหักเปอร์เซ็น เช่น หนังสือ 6. ไม่สามารถกำหนดต้นทุน เช่น บริการ คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง ( refer. fao.org ) การลงบันทึกบัญชีสินค้า ( esg.co.th ) 1. ระบบการลงบัญชีสินค้าแบบต่อเนื่อง (Perpetual Inventory System) 2. ระบบการลงบัญชีสินค้าเมื่อสิ้นงวด (Periodic Inventory System) การปิดบัญชี หมายถึง การจัดทำงบการเงิน เช่น งบกำไรขาดทุน งบดุล เป็นรายงานการเงิน ที่แสดงผลการดำเนินงานของกิจการหนึ่งในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยนำเอาค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปหักจากรายได้ ก็จะทราบว่ากิจการมีกำไรขาดทุนเท่าใด เพื่อให้สะดวกในการลงบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายใหม่ในงวดถัดไป ฉะนั้นการปิดบัญชีกำไรขาดทุน จะมีผลทำให้บัญชีที่ถูกปิดมียอดเท่ากับ ศูนย์ (Zero Balance) ? |
1. เข้าก่อนออกก่อน (FIFO : First In First Out) |
นิยมใช้ เพราะต้นทุนที่คำนวณใกล้กับความจริง เช่น สินค้าตามฤดู หรือจำกัดเรื่องอายุสินค้า มีแนวคิดว่า สินค้าที่ซื้อมาก่อน ก็จะจำหน่ายออกไปก่อน date stock type amount cost 2549-10-23 101 buy 100 8 2549-10-25 101 sell 80 8 2549-10-29 102 buy 100 9 2549-11-01 101 sell 15 8 2549-11-05 102 sell 85 9 2549-11-07 103 buy 100 10 2549-11-10 101 sell 5 8 2549-11-20 102 sell 1 9 2549-11-20 103 sell 20 10 จำนวนเหลือรวม (0 + 14 + 80) = 94 มูลค่าเฉลี่ยต่อชิ้น (14 * 9) + (80 * 10) = 9.85 |
2. เข้าหลังออกก่อน (LIFO : Last In First Out) |
สินค้าที่ซื้อมาก่อนเป็นต้นทุนของสินค้าคงเหลือ เช่น เหล็ก ปูน ไม้ เพราะเคลื่อนย้ายไม่สะดวก มีแนวคิดว่า สินค้าที่ซื้อมาหลังสุด จะขายออกไปก่อน date stock type amount cost 2549-10-23 101 buy 100 8 2549-10-25 101 sell 80 8 2549-10-29 102 buy 100 9 2549-11-01 102 sell 15 9 2549-11-05 102 sell 85 9 2549-11-07 103 buy 100 10 2549-11-10 103 sell 5 10 2549-11-20 103 sell 1 10 2549-11-20 103 sell 20 10 จำนวนเหลือรวม (20 + 0 + 74) = 94 มูลค่าเฉลี่ยต่อชิ้น (20 * 8) + (74 * 10) = 9.57 |
3. ถัวเฉลี่ย (Moving Average) |
คำนวณต้นทุนจากจำนวนที่เหลือ ตัวอย่างนี้คำนวณราคาทุนใหม่ทุกครั้งที่ซื้อเข้ามา date stock type amount cost 2549-10-23 101 buy 100 8 2549-10-25 --- sell 80 8 2549-10-29 102 buy 100 9 ((20 * 8) + (100 * 9) / 120) = 8.33 2549-11-01 --- sell 15 8.33 2549-11-05 --- sell 85 8.33 2549-11-07 103 buy 100 10 ((20 * 8.33) + (100 * 10)) / 120) = 9.72 2549-11-10 --- sell 5 9.72 2549-11-20 --- sell 1 9.72 2549-11-20 --- sell 20 9.72 จำนวนเหลือรวม (300 - 206) = 94 มูลค่าเฉลี่ยต่อชิ้น 1 : ((20 * 8) + (100 * 9) / 120) = 8.33 มูลค่าเฉลี่ยต่อชิ้น 2 : ((20 * 8.33) + (100 * 10)) / 120) = 9.72 |
+ ผู้สนับสนุน + รับผู้สนับสนุน |